ความเป็นทาสไม่เคยหายไปจากความเป็นไทย (Slavery has never disappeared from being a Thai)

 

    • คนสยามเราได้พ้นจากคำว่าทาสมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2448 แต่ทาสไม่ได้เคยจางหายไปจากสังคมไทย เพียงแต่ว่ามันเปลี่ยนรูปร่างหรือกายร่างไป ตามกาลเวลาและสภาพแวดล้อม และที่มีอยู่ในปัจจุบันส่วนใหญ่เขาเรียกว่า ชนชั้นสูง ชนชั้นกลาง และชนชั้นรากหญ้า ซึ่งชนชั้นรากหญ้าจะทำอะไรก็ต้องผ่านชนชั้นกลางเห็นชอบในเบื้องต้นเสียก่อน เมื่อชนชั้นกลางเห็นชอบแล้ว ต่อไปชนชั้นสูงก็เป็นผู้อนุมัติว่าจะทำได้หรือไม่ กรณีที่ไม่อนุมัติพอสรุปได้น่าจะมีอยู่ 3 กรณี คือ กรณีแรก ขัดผลประโยชน์ชนชั้นสูงและชนชั้นกลาง กรณีที่สอง ชนชั้นสูงและชนชั้นกลางไม่มีผลประโยชน์หรือส่วนแบ่งร่วมด้วย และกรณีที่สาม ชนชั้นสูงและชนชั้นกลางเห็นว่าได้ผลประโยชน์มากเลยอยากเอาไปทำซะเองโดยไม่คิดที่จะแบ่งชนชั้นรากหญ้า หรือแบ่งใคร ลักษณะนี้ถูกสอดแทรกไว้ในสิ่งที่เราเรียกว่า กฎหมายเมื่อชนชั้นรากหญ้าต้องการเป็นชนชั้นกลางและชนชั้นกลางต้องการต้องการเป็นชนชั้นสูง แบบไม่เกี่ยงวิธีการและจงใจฝ่าฝืนกฎหมาย ปัญหาของสังคมไทยจึงบังเกิด เรื่องฉ้อราษฎร์บังหลวง ค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ และ อื่นๆ อีกมากมาย จะมีชนชั้นรากหญ้าสักกี่คนในรอบ 10 ปี ที่จะกายเป็นชนชั้นกลาง และชนชั้นกลางกายเป็นชนชั้นสูง 
    • ต้องถามย้อนกลับมาว่าชนชั้นสูงต้องการให้ชนชั้นกลางมาเป็นพวกเดียวกับตนหรือไม่ ชนชั้นกลางต้องการให้ชนชั้นรากหญ้ามาเป็นพวกเดียวกับตนหรือมีสถานะสูงกว่าตนหรือไม่ คำตอบลึก ๆ คือ ไม่ อย่างไรก็ตามชนชั้นสูงยังคงต้องการมีสิทธิ์และผลประโยชน์ก่อนชนชั้นกลางและชนชั้นรากหญ้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร ยารักษาโรค ที่อยู่อาศัย การศึกษา การงาน รายได้ และต้นทุนทางสังคม  ชนชั้นรากหญ้าก็ยังคงได้ส่วนแบ่งเล็กๆ น้อยๆ จากชนชั้นสูงและชนชั้นกลาง เพื่อต่อลมหายใจและทำงานให้ชนชั้นสูงและชนชั้นกลาง เหมือนกับชาวนาปลูกข้าวไว้ขายแต่ขายไม่เคยได้กำไร เพราะต้องขายผ่านตัวแทนที่เป็นชนชั้นกลางและชนชั้นสูง ซึ่งไม่ทำนาแต่เป็นผู้กำหนดราคาข้าว และชาวนาก็ยังคงต้องทำนาต่อไป เหมือนกับชาวไร่อ้อยที่ปลูกอ้อย แต่ไม่เคยขายอ้อยในราคาที่ต้นเองกำหนด และ ไม่เคยขายน้ำตาลที่ได้กำไรในราคาสูง ๆ เหมือนกับคนเลี้ยงไก่แบบพันธสัญญา เลี้ยงแต่ไก่แต่ไม่เคยขายไก่ภายใต้ราคาที่ตัวเองกำหนด แต่ซื้อไก่กินแพงกว่าไก่ที่ขายไป และหากมีการทักท้วงหรือลุกฮือ ถ้าเป็นสมัยที่ยังไม่เลิกทาสอาจถูกมัดไว้กับเสาและถูกเฆี่ยนตี แต่ถ้าเป็นสมัยนี้อาจติดคุกหรือไม่ก็ถูกปรับทัศนคติ   ดู ๆ แล้วน่าจะเรียกว่าทาสระบบทุนนิยม ก็น่าจะได้

ความคิดเห็น